เคล็ดลับ !! วิธีการปลูกกล้วยหอมทอง ให้เครือใหญ่หวีสวย หน่อดก
เคล็ดลับ !! วิธีการปลูกกล้วยหอมทอง ให้เครือใหญ่หวีสวย หน่อดก
การปลูกกล้วย
การปลูกกล้วยทุกชนิดจะมีหลักปฏิบัติที่คล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะกล้วยชนิดที่ใช้รับประทานผลสุก เช่น กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ และกล้วยหอม การปลูกกล้วยเพียงเพื่อรับประทานเองจะใช้หลักการปฏิบัติเหมือนกับการปลูกในแปลงใหญ่เพื่อการค้า แต่จะไม่ต้องการดูแลอย่างพิถีพิถันเท่านั้น
การเตรียมเหง้าพันธุ์
การปลูกกล้วยนิยมปลูกด้วยเหง้าพัธุ์มากที่สุด ซึ่งสามารถขุดได้จากกอกล้วยต้นแม่พันธุ์ โดยเลือกเหง้าที่มีความสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร ด้วยการขุดเปิดหน้าดินรอบโคนต้น แล้วใช้จอบหรือเสียมสับเหง้าส่วนที่เชื่อมกับต้นแม่ออก ทั้งนี้ ส่วนของต้นพั น ธุ์ต้องประกอบด้วยส่วนหัวกล้วยหรือเหง้า กล้วยที่สมบูรณ์ ห้ามมีส่วนแว่งหรือขาด ซึ่งต้องระวังอย่างมากขณะขุด
การเตรียมดิน และหลุมปลูก
การเตรียมดิน และหลุมปลูก จะเริ่มด้วยการไถพรวนดินโดยไม่ต้องไถให้ลึกมาก และกำจัดวัพืช พร้อมตากดินนาน 20-30 วัน แต่หากปลูกเพียงไม่กี่ต้นนั้น สามารถขุดหลุมได้ทันที ช่วงปลูกที่เหมาะสมช่วงเดือนพฤษภาคม มิถุนายน เพราะเป็นช่วงฝน
การขุดหลุมปลูกกล้วยทั่วไปจะขุดที่ระยะ 50 เซนติเมตร ทั้งด้านกว้าง ยาว และลึก โดยมีระยะห่างระหว่างหลุมที่ 2-3 เมตร โดยวัดจากกึ่งกลางของหลุม
หลังจากนั้น ให้รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก หรือ ปุ๋ยหมัก อัตรา 3-5 กิโลกรัม/หลุม ส่วนการปลูกแบบการค้ามักรอง ปุ๋ยเพิ่ม โดยใช้สูตร 15-15-15 ประมาณ 150-200 กรัม/หลุม พร้อมเกลี่ยดินคลุกผสมให้เข้ากัน พร้อมปรับก้นหลุมให้มีความลึกประมาณ 25-30 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับความสูงของต้นพันธุ์ที่ใช้
การปลูก
-การปลูกกล้วยจะนิยมปลูกจาก เหง้าพันธุ์ ที่ขุดได้จากต้นหลัก โดยเลือกเหง้าที่ความสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร โดยการวางต้นพั น ธุ์ไว้กลางหลุม และให้หันบริเวณที่มีรอยแผลจากการตัด ออกจากต้นแม่หันไปทางทิศตะวันตก เพราะกล้วยจะ แทงปลี
-และห้อยเครือในทิศตรงข้ามกับรอยแผลที่ตัดจากกล้วยต้นแม่เสมอ หลังจากนั้น เกลี่ยดินกลบให้แน่น พร้อมวางฟางข้าวหรือเศษใบไม้ปิดคลุมหลุมอีกครั้ง ช่วงแรกปลูกให้รดน้ำอาทิตย์ 2 -3 ครั้ง แล้วค่อยงดเรื่อยๆ จนเหลือเดือนละ 2 ครั้ง
การใส่ ปุ๋ ย
– ให้ใส่ ปุ๋ยคอก รวมถึงปุ๋ยหมัก อัตรา 3-5 กิโลกรัม/หลุม โดยแบ่งใส่ปีละ 4 ครั้ง แต่หากเป็นการปลูกเพื่อรับประทานเองอาจใส่เพียงครั้งเดียว/ปี หรือไม่ใส่เลย
– ปุ๋ย หากเป็นการปลูกเพื่อการค้าในแปลงใหญ่ ให้ใส่ 2 ครั้ง หลังการปลูกในเดือนที่ 1 และ 3 ให้ใช้ปุ๋ ย สูตร 15-15-15 อัตรา 1-2 กำ/ต้น และในเดือนที่ 5 และ 7 ให้ใส่อีกครั้ง
-โดยใช้ปุ๋ยสูตร 12-12-24 ในอัตราเดียวกัน โดยหว่านโรยห่างจากโค้นต้นประมาณ 30 เซนติเมตร พร้อมกลบดินทุกครั้ง ส่วนการปลูกเพียงไม่กี่ต้นเพื่อรับประทานเองอาจไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้ รดน้ำอย่างสม่ำเสมอ เดือนละ 2 ครั้ง
การเก็บเกี่ยว
กล้วยที่ให้ผลทั่วไปมักจะตกปลีภายใน 7-10 เดือน หลังการปลูก ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน และชนิดของกล้วย ซึ่งปลีจะบานจนหมดใช้เวลาประมาณ 10-14 วัน ซึ่งหลังจากนี้จะค่อยตัดปลีได้
การตัดปลีจะตัดหลังจากเริ่มสังเกตเห็นหวีกล้วยที่มีลักษณะผลของหวีไม่สม่ำเสมอกัน ผลมีขนาดเล็ก และติดผลน้อย ส่วนหวีด้านบนจะมีขนาดผลสม่ำเสมอกัน และมีขนาดผลใหญ่กว่า จำนวนผลมากกกว่า ซึ่งเรียกหวีนี้ว่า หวีตีนเต่า ทั้งนี้ การตัดจะตัดหวีใต้หวีตีนเต่าออก เพื่อไม่ให้ปลีบานต่อ เพราะหากปล่อยให้ปลีบานต่อหรือปล่อยปลีจนแห้งจะทำให้ผลในหวีด้านบนใหญ่ช้า และขนาดผลไม่สม่ำเสมอ
การเก็บเกี่ยว โดยทั่วไปกล้วยจะเริ่มการเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 50 -65 วัน หลังการตัดปลีขึ้นกับพันธุ์กล้วยแต่ละชนิด เช่น กล้วยไข่จะเริ่มเก็บเครือได้หลังการตัดปลี 45-55 วัน
หลักพิจารณาอายุการเก็บกล้วย
– นับวันหลังจากการแทงช่อดอก เช่น กล้วยไข่จะเก็บผลได้ประมาณ 60-65 วัน หลังการตัดปลี
– นับวันหลังการเห็นหวีตีนเต่า โดยปกติจะอยู่ประมาณ 50-70 เดือน
– ดูลักษณะเหลี่ยมของผล เช่น กล้วยน้ำว้าที่พร้อมตั ผลจะไม่มีเหลี่ยม ส่วนผลดิบที่ยังไม่พร้อมตัดจะมีเหลี่ยม
– ดูลักษณะแห้งของขอบใบธง หากกล้วยพร้อมตัดเครือ ใบกระธงจะเริ่มเหลลือง และเหี่ยวแห้ง
– ดูลักษณะของสีผล โดยกล้วยทั่วไปเมื่อใกล้สุก ผลจะเริ่มมีสีเหลือง
ขอบคุณที่มา : เว็บไซต์ jo-workman.com
Don’t buy traffic for your website until you’ve seen this first: http://bit.ly/boost-web-traffic-now