เตือนเกษตรกรชาวสวนมะม่วง เฝ้าระวังการระบาดของโรคราดำ มักพบคราบราสีดำติดตามส่วนต่างๆ ของต้น
เตือนเกษตรกรชาวสวนมะม่วง เฝ้าระวังการระบาดของโรคราดำ มักพบคราบราสีดำติดตามส่วนต่างๆ ของต้น
ระยะนี้จะเข้าสู่ช่วงที่มีอากาศเย็น กรมวิชาการเกษตร เตือนเกษตรกรชาวสวนมะม่วงเฝ้าระวังการระบาดของโรคราดำ มักพบคราบราสีดำติดตามส่วนต่างๆ ของต้น เช่น ใบ ยอด ช่อดอก และผล ซึ่งจะทำให้ช่อดอกบานช้า หรือบานผิดปกติ เหี่ยว และหลุดร่วงลงได้ บางครั้งอาจทำให้ไม่ติดผล
ถ้าพบอาการของโรคราดำที่ผลมะม่วง จะทำให้ผลเหี่ยวและหลุดร่วงในที่สุด โดยมากจะพบการระบาดของโรคราดำในช่วงที่มีแมลงปากดูด อาทิ เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยหอย และเพลี้ยแป้ง
หากพบการระบาดของโรคราดำ ให้เกษตรกรพ่นด้วยน้ำเปล่าล้างสารเหนียวที่แมลงปากดูดขับถ่ายไว้และคราบราดำ เพื่อลดปริมาณเชื้อสาเหตุโรค เนื่องจากเชื้อราสาเหตุโรคจะเจริญบนสารเหนียวที่แมลงปากดูด ขับถ่ายไว้ คือ เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยหอย และเพลี้ยแป้ง ดังนั้น เกษตรกรควรพ่นด้วยสารกำจัดแมลง
กรณีพบเพลี้ยจักจั่น ให้พ่นด้วย
- สารแลมบ์ดา-ไซฮาโลทริน 2.5% อีซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ
- สารคาร์บาริล 85% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 60 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ
- สารอิมิดาโคลพริด 10% เอสแอล อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร
หากพบเพลี้ยหอย ให้พ่นด้วย
- สารมาลาไทออน 83% อีซี อัตรา 30 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร
ส่วนถ้าพบเพลี้ยแป้ง ให้พ่นด้วย
- สารมาลาไทออน 83% อีซี อัตรา 30 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ
- สารไทอะมีทอกแซม 25% ดับเบิ้ลยูจี อัตรา 2.5 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
ขอบคุณที่มา : เว็บไซต์ doa.go.th